ความใสบริสุทธิ์ของเพชรคือหนึ่งในสี่ปัจจัยสำคัญที่สุด ที่ใช้ประเมินคุณภาพและกำหนดมูลค่าของเพชรแต่ละเม็ด แล้วความใสบริสุทธิ์คืออะไร? มีกี่ระดับ? มาร่วมค้นหาข้อมูลเชิงลึกไปกับ Cao Hung Diamond ได้เลยในบทความนี้!
ความใสบริสุทธิ์ของเพชร (Clarity) คืออะไร?
ความใสบริสุทธิ์ของเพชร หรือที่เรียกว่า “ความสะอาด” หรือ “ความโปร่งใส” คือระดับที่สามารถมองเห็นตำหนิภายในและตำหนิภายนอกของเพชร ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่มาตรฐานสำคัญในการกำหนดมูลค่าเพชร (Color, Clarity, Cut, Carat) ตามใบรับรองเพชรจาก GIA
กระบวนการก่อตัวของเพชรใช้เวลาหลายล้านปีภายใต้เปลือกโลกที่ความลึกประมาณ 150 กิโลเมตร และต้องทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 1,200 องศาเซลเซียส (2,200 องศาฟาเรนไฮต์) ด้วยเหตุนี้เพชรมักมีสิ่งเจือปนภายในและตำหนิบนผิวด้านนอก
ความใสบริสุทธิ์ของเพชร มักถูกประเมินจาก 2 ปัจจัยหลัก:
Inclusions (สิ่งเจือปนภายใน)
- คือสิ่งแปลกปลอม หรือตำหนิที่อยู่ภายในเพชร อาจเป็นผลึกแร่ชนิดอื่น ฟองอากาศ หรือรอยร้าวเล็ก ๆ
- สิ่งเจือปนนี้สามารถส่งผลต่อความโปร่งใสและความงามของเพชรได้ หากมีขนาดใหญ่หรืออยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย
Blemishes (ตำหนิภายนอก)
- คือความบกพร่องบนผิวเพชร เช่น รอยขีดข่วน รอยบาก หรือจุดหยาบ
- ตำหนิภายนอกอาจกระทบต่อความเงางามและการสะท้อนแสงของเพชร
ระบบการจัดเกรดความใสบริสุทธิ์ของเพชรถูกพัฒนาขึ้นโดยช่างอัญมณี เดิมทีใช้คำศัพท์เฉพาะที่ทำให้เข้าใจผิดได้ เช่น “Loupe clean” หรือ “piqué” แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นมาตรฐานสากลที่นิยมใช้ทั่วโลก เช่น FL, IF, VVS เมื่อพูดถึงความใสบริสุทธิ์ของเพชร
บทบาทของความใสบริสุทธิ์ในเพชร:
ความใสบริสุทธิ์เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการประเมินคุณภาพและมูลค่าของเพชร ถึงแม้ว่า clarity อาจไม่ส่งผลต่อความสวยงามของเพชรเท่ากับ cut, color หรือ carat แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะเพชรที่มีความใสบริสุทธิ์สูงนั้นหายาก และมีมูลค่าสูงกว่าเพชรที่มีตำหนิมาก ความใสบริสุทธิ์ของเพชรใช้กับทั้งเพชรใส (สีขาว) และเพชรสี
สาเหตุหลักของการเกิดสิ่งเจือปนในเพชร เกิดจากการที่โมเลกุลหรือแร่ธาตุอื่น ๆ แทรกตัวเข้ามาในระหว่างกระบวนการก่อตัวของเพชร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 – 3.5 พันล้านปี เพชรเกิดขึ้นจากความลึกประมาณ 130 – 195 กิโลเมตรใต้เปลือกโลก ภายใต้สภาพอุณหภูมิและความดันสูงสุด จึงทำให้เกิดสิ่งเจือปนที่เราพบในเพชรแต่ละเม็ด
วิธีการวัดความใสบริสุทธิ์ของเพชร
ในการวัดและประเมินความใสบริสุทธิ์ของเพชร ผู้เชี่ยวชาญจะใช้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 10x และการสังเกตด้วยตาเปล่าเพื่อตรวจสอบตำหนิทั้งบนพื้นผิวและภายในเพชร หากต้องการตรวจหาสิ่งเจือปนที่มีขนาดเล็กกว่านี้ จำเป็นต้องใช้กล้องขยายที่มีกำลังมากกว่า 10x และเมื่อพบสิ่งเจือปน ผู้เชี่ยวชาญจะใช้ปัจจัยต่อไปนี้เพื่อจัดเกรดเพชรได้ง่ายขึ้น:
- ขนาด: ตำหนิยิ่งมีขนาดใหญ่และเห็นได้ชัด ความใสบริสุทธิ์ยิ่งลดลง
- จำนวน: ยิ่งมีตำหนิน้อย ความใสบริสุทธิ์ยิ่งสูง
- ตำแหน่ง: ตำแหน่งของตำหนิมีผลต่อการสะท้อนแสงและความใสบริสุทธิ์ของเพชร
- ลักษณะของสิ่งเจือปน: ชนิดของสิ่งเจือปนสัมพันธ์กับคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของเพชร เช่น ความทนทานและความโปร่งใส
- สีและความเด่นชัด: สีและความเด่นบอกถึงระดับที่ตำหนิมองเห็นได้ง่ายเมื่อเทียบกับสีของเพชรและเพชรเม็ดอื่น ๆ
มาตราวัดระดับความใสบริสุทธิ์ของเพชร
ปัจจุบัน ความใสบริสุทธิ์ของเพชรถูกกำหนดโดยตารางการประเมินมาตรฐานของ สถาบันอัญมณีแห่งอเมริกา (GIA) ซึ่งมีความแม่นยำสูงและได้รับการยอมรับในระดับสากล มาตราวัดความใสบริสุทธิ์ของเพชรถูกแบ่งระดับดังนี้:
ระดับ (TH) | ลักษณะ (ภาษาไทย) |
Flawless (FL) | ไม่มีสิ่งเจือปนภายในและตำหนิภายนอกเลย ถือว่าหายากมาก น้อยกว่า 1% ของเพชรทั้งหมด เพชรระดับนี้ได้รับการประเมินว่า “สมบูรณ์แบบ” |
Internally Flawless (IF) | ไม่สามารถมองเห็นสิ่งเจือปนภายในได้ แม้จะใช้กล้องจุลทรรศน์ มีเพียงรอยเล็ก ๆ บนผิวหน้าเท่านั้น ถือว่าใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบ |
Very Very Slightly Included (VVS1, VVS2) | สิ่งเจือปนภายในเล็กมาก มองเห็นได้ยากแม้ใช้กล้องจุลทรรศน์ เพชรในระดับนี้ถูกจัดว่า “มีความใสสูงมาก” |
Very Slightly Included (VS1, VS2) | สิ่งเจือปนภายในมีขนาดเล็ก สามารถมองเห็นได้เมื่อใช้กล้องขยาย x10 เพชรในระดับนี้ถูกประเมินว่ามีความใส “สูงกว่าค่าเฉลี่ย” และมีมูลค่าสูงในตลาด |
Slightly Included (SI1, SI2) | สิ่งเจือปนสามารถเห็นได้ชัดเจนภายใต้กล้องขยาย x10 หากมองด้วยตาเปล่าอาจเห็นได้เมื่อสังเกตใกล้ ๆ หรือจากมุมเฉียง เพชรในระดับนี้มักมีราคาที่เหมาะสมและเข้าถึงได้ง่าย |
Included (I1 – I3) | เพชรในระดับนี้มีสิ่งเจือปนที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า ความงามและความใสบริสุทธิ์ถูกจัดว่า “ต่ำที่สุด” |
ผลกระทบของความใสบริสุทธิ์ต่อเพชร
ความใสบริสุทธิ์เป็นหนึ่งในเกณฑ์สำคัญในการประเมินและกำหนดมูลค่าของเพชรตามมาตรฐาน GIA ความใสบริสุทธิ์ของเพชรมีผลกระทบดังนี้:
- ด้านความงาม: เพชรที่มีความใสบริสุทธิ์สูงจะไม่มีสิ่งเจือปนหรือรอยแตกที่ลดการสะท้อนแสงและความโปร่งใส ในทางตรงข้าม เพชรที่มีความใสบริสุทธิ์ต่ำจะมีตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสิ่งเจือปนเหล่านี้ทำให้ความงามของเพชรลดลงโดยตรง
- ด้านความทนทาน: เพชรที่มีความใสบริสุทธิ์สูงจะมีความแข็งแรงและทนทานกว่าเพชรที่มีความใสบริสุทธิ์ต่ำ สิ่งเจือปนและตำหนิอาจทำให้โครงสร้างโมเลกุลของเพชรอ่อนแอและแตกหักได้ง่ายเมื่อถูกกระแทก
- ด้านราคา: เพชรที่มีความใสบริสุทธิ์สูงจะมีราคาสูงกว่าเพชรที่มีความใสบริสุทธิ์ต่ำ เนื่องจากเพชรใสบริสุทธิ์สูงนั้นหายากมากตามธรรมชาติ เพราะกระบวนการก่อตัวใช้เวลานับพันล้านปี เพชรกลุ่มนี้ถือเป็นเพชรที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
Cao Hung Diamond เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือด้านการจำหน่ายเพชรในเวียดนาม ที่นี่เรามุ่งมั่นนำเสนอเพชรธรรมชาติระดับพรีเมียม ที่ได้มาตรฐาน 4C ได้แก่ การเจียระไน สี น้ำหนักกะรัต และโดยเฉพาะความใสบริสุทธิ์
ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับความใสบริสุทธิ์ของเพชรที่ Cao Hung Diamond นำเสนอในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการค้นคว้าของคุณ และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ขอให้คุณประสบความสำเร็จ!